
คณะเกษตรนวัตและการจัดการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ร่วมกับ บริษัท โนบิทเทอร์ จำกัด จัดงานเสวนาวิชาการในหัวข้อ “โอกาสและแนวทางธุรกิจการผลิตพืชด้วยเทคโนโลยี PFAL: เปิดประตูสู่เกษตรแห่งอนาคต” เผยแพร่เทคโนโลยีล้ำสมัยด้านการผลิตพืชในระบบปิด (Plant Factory with Artificial Lighting: PFAL) ที่จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนโฉมหน้าเกษตรกรรมไทย โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ดร.วิลาส ฉ่ำเลิศวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนบิทเทอร์ จำกัด ดร.ปรีสาร รักวาทิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) อาจารย์มนตรี คงตระกูลเทียน คณบดี คณะเกษตรนวัตและการจัดการ และอาจารย์ ผู้ประกอบการ เกษตรกร นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป ร่วมงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ Auditorium ชั้น 16 อาคาร CP ALL Academy สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ

งานเสวนาฯ เน้นให้ความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยี PFAL ซึ่งเป็นระบบการผลิตพืชแนวตั้งที่อาศัยเทคโนโลยีในการควบคุมแสง อุณหภูมิ และสิ่งแวดล้อมในระบบปิด ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเกษตรแห่งอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเปิดอนุสิทธิบัตรระบบปลูกแนวตั้งภายใต้แนวคิด Smart Farm, Smart Life รวมถึงการเชื่อมโยง Value Chain จากฟาร์มสู่ผู้บริโภค แสดงให้เห็นถึงทิศทางอนาคตของเกษตรไทย และโอกาสในการขยายธุรกิจในภาคการเกษตรมากขึ้น

รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ กล่าวว่า “อนาคตของการเกษตรไทยกำลังเคลื่อนไปสู่รูปแบบที่เรียกว่า Double Intensive Farming หรือ “การเกษตรแบบเข้มข้นสองชั้น” ซึ่งประกอบด้วยสององค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ 1. Space Intensive และ Technological Intensive โดย Space Intensive คือการบริหารจัดการ “พื้นที่” ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในพื้นที่จำกัด และก่อให้เกิดแนวคิด Vertical Farming หรือ “การเกษตรแนวดิ่ง” ไม่ใช่เพียงแค่การปลูกพืชเท่านั้น แต่รวมไปถึงการเลี้ยงสัตว์ เช่น การเลี้ยงสุกรในอาคารสูงที่ประเทศจีน 2. Technological Intensive Farming การเกษตรที่อาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ การใช้แสงเทียม (Artificial Lighting) เพื่อการเพาะปลูกไปจนถึงการใช้ AI มากขึ้น ทำให้เห็นภาพของ “การเกษตรแห่งอนาคต” ที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการศึกษาด้านการเกษตรสมัยใหม่ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นประเด็นระดับโลกจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน งานวันนี้สัมมนาขอขอบพระคุณที่ทุกท่านได้นำความรู้มาเผยแพร่ ช่วยขยายกรอบความคิดและความเข้าใจให้กว้างไกล และมีมุมมองใหม่ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของการเกษตรไทยที่กำลังจะมาถึงอย่างมั่นคง”

ถัดมา ดร.วิลาส ฉ่ำเลิศวัฒน์ บรรยายหัวข้อ “การเปิด Open source อนุสิทธิบัตรระบบปลูกแนวตั้งให้สาธารณะใช้ประโยชน์” โดยเนื้อหาพูดถึงแนวคิดการทำสตาร์ทอัพการเกษตรจากต้นแบบจริง และเข้าใจเทคโนโลยีที่ช่วยภาคเกษตรและอาหาร รวมถึงเรียนรู้วิธีพัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

จากนั้น ดร.ปรีสาร รักวาทิน บรรยายหัวข้อ “Smart Farm, Smart Life: เรื่องจริงจากภาคสนามโดย depa” แชร์ข้อมูลโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศไทย บทบาทของ depa ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ทั้งการเกษตร อุตสาหกรรม SMEs และชุมชน เน้นการสร้างคน พัฒนาแพลตฟอร์ม ให้สามารถแข่งขันได้และมีความยั่งยืน ตลอดจนคุณภาพชีวิตของคนดีขึ้นทุกระดับ

ปิดทายด้วยเสวนา “โอกาสและแนวทางธุรกิจการผลิตพืชด้วยเทคโนโลยี PFAL: เปิดประตูสู่เกษตรแห่งอนาคต โดย ดร.เกรียงไกร โมสาลียานนท์ นักวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.ชัยรัตน์ บูรณะ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิจัย คณะเกษตรนวัตและการจัดการ PIM คุณณัฐวุฒิ จันทร์เรือง เจ้าของจันทร์เรืองฟาร์ม JR FARM และ ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.มลฤดี จันทรัตน์ ที่ปรึกษาคณะเกษตรนวัตและการจัดการ PIM เป็นผู้ดำเนินการรายการซึ่งกล่าวถึงสถานการณ์ของระบบ PFAL ทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก พร้อมเจาะลึกแนวโน้มความต้องการของตลาดและผู้บริโภค โดยแบ่งปันประสบการณ์ตรงหลายมุมมอง อาทิ การวิจัยและพัฒนา การใช้งานจริงในฐานะเกษตรกร ไปจนถึงบทบาทของผู้บริโภคผลผลิตจากระบบ PFAL

อีกหนึ่งประเด็นคือความจำเป็นของบุคลากรคุณภาพ ในภาคเกษตรกรรมและธุรกิจแม้ว่าปัจจุบันจะมีแนวโน้มการนำเทคโนโลยีและ AI เข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย แต่คนยังคงเป็นทรัพยากรที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในด้านระบบการผลิต เทคโนโลยีพืช และการตลาด
หลายสถาบันการศึกษาจึงได้เร่งพัฒนาหลักสูตรและเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า เมื่อธุรกิจ PFAL เติบโตขึ้น จะมีกำลังคนที่พร้อมเข้าสู่ตลาด และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตรสมัยใหม่

คณะเกษตรนวัตและการจัดการ ( Faculty of Innovative Agriculture and Management : IAM) พีไอเอ็ม สร้างการเรียนรู้เกษตรยุคใหม่ที่เรียกว่า “เกษตรดิจิทัล” ด้วยการเรียนการสอนภายใต้ Work-based Education สร้าง “นักจัดการเกษตรนวัต” การเรียนรู้ควบคู่การการฝึกปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นกับมืออาชีพธุรกิจเกษตรหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมกระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยการบูรณาการทั้งด้านวิทยาศาสตร์เกษตร นวัตกรรม เศรษฐศาสตร์ วิทยาการจัดการ ร่วมกับองค์ความรู้ในการจัดการด้านธุรกิจเกษตรมาพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการและประเทศชาติ ผู้เรียนมีทักษะและความสามารถเป็นนักเกษตรยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จด้วยการจัดการอย่างมืออาชีพ สนับสนุนอนาคตภาคการเกษตรให้ยั่งยืน หลายสถาบันการศึกษาจึงได้เร่งพัฒนาหลักสูตรและเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า เมื่อธุรกิจ PFAL เติบโตขึ้น จะมีกำลังคนที่พร้อมเข้าสู่ตลาด และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตรสมัยใหม่
PIM พร้อมเป็นตัวกลางเชื่อมโยงภาคการศึกษา ภาคเอกชน และภาครัฐ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อขับเคลื่อนการเกษตรให้เข้มแข็ง ทันสมัย และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น


ติดตามข้อมูลของคณะเกษตรนวัตและการจัดการและการบริการวิชาการได้ที่
Website https://iam.pim.ac.th/wp/
Facebook คณะเกษตรนวัตและการจัดการ https://www.facebook.com/InnovativeAgriculturalManagement
Facebook เครือข่ายเกษตรPIM https://www.facebook.com/ANC.PIM